ตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทวีคูณ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Economic Catalyst การประชุมและการจัดงานแสดงสินค้าในระดับยิ่งใหญ่ ช่วยเร่งการติดต่อและดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้ซื้อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาพบปะพูดคุย ตกลงเจรจากันได้ โดยไม่ต้องใช้เวลาในการสืบเสาะค้นหาข้ามปี ข้ามประเทศ
กลยุทธ์การจัดการประชุมนานาชาติและจัดนิทรรศการนานาชาติขนาดใหญ่ที่ว่านี้คือ MICE (Meeting, Incentive, Convention and Exhibition) นั่นเอง
ธุรกิจการจัดประชุม และมีการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ (Meeting Incentive Convention and Exhibition : MICE) เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้ประเทศไม่น้อย รวมถึงเป็นแหล่งกระจายรายได้ไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลายด้าน อาทิ โรงแรม อาหารและเครื่องดื่ม แหล่งช้อปปิ้ง ธุรกิจรับจัดประชุมและสัมมนา ธุรกิจบริการด้านการคมนาคมขนส่ง และแหล่งท่องเที่ยว ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครจัดเป็นตลาด MICE ดาวเด่นแห่งหนึ่งในเอเชีย นอกเหนือจากฮ่องกง สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ รวมถึงตลาด MICE ดาวรุ่งดวงใหม่อย่างกัวลาลัมเปอร์ มาเก๊า และนครเซี่ยงไฮ้
เป็นที่ทราบกันดีว่า ธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตการเงินโลกตั้งแต่ ช่วงครึ่งหลังปี 2551 ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงแรม สายการบิน รวมถึงธุรกิจ MICE ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เนื่องจากบริษัทต่างๆ มีการตัดลดงบประมาณจัดการประชุม และเดินทางท่องเที่ยว / ดูงานในต่างประเทศ อย่างไรก็ดี นครเซี่ยงไฮ้กลับเป็นนครปลายทางของธุรกิจ MICE ในเอเชียที่คาดว่าจะมีแนวโน้มสดใส และเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ในบริบทที่ธุรกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ยังอยู่ในช่วงทรุดตัว หรือกำลังตะกายฟื้นตัวขึ้น
MICE คืออะไร
ในแง่ของ MICE ไม่ได้ใช้คำว่าเป็นศูนย์กลางเสียทีเดียว การประชุม หรือ Meeting ต้องการความหลากหลายคงไม่มีองค์กรไหนไปประชุมที่เมืองใดเมืองหนึ่งแล้วก็ประชุมที่นั่นตลอดไป แต่อาจมีการประชุมบางประเภท เช่น การประชุมเศรษฐกิจ Economic Forum ต้องจัดขึ้นทุกปีที่สวิตเซอร์แลนด์ อาจถือว่าเป็นศูนย์กลางแบบหนึ่ง
Incentive คือการให้รางวัลด้วยการไปท่องเที่ยว เช่น แอมเวย์ให้รางวัลไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ ปีหน้าเขาคงไม่จัดไปดิสนีย์แลนด์อีก เพราะคนได้ไปแล้ว เขาอยากได้ไปที่ใหม่ๆ บ้าง ในแง่ของ Incentive หรือ Convention เขาต้องการ Exotic ต้องการความแปลกใหม่อยู่เสมอ ประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดใหม่ ถือว่ามีความสดในแง่ของข้อเสนอไปแข่งกับเขาก็น่าสนใจ
ความเป็นประจำที่เห็นได้ชัดที่สุดใน MICE คือตัว E = Exhibition มีความเป็น Hub ต่อเนื่องได้ หรือเรียกว่า Repeat Business คือมาแล้วมาได้อีก ซึ่งการจัด Exhibition ส่วนใหญ่เป็นการจัดงานแบบต่อเนื่อง และกำหนดให้จุดนั้นเมืองนั้น หรือประเทศนั้น กลายเป็นศูนย์กลางได้ เช่น งานจิวเวลรี่ของโลก เราพูดถึงบาเซิลที่สวิตเซอร์แลนด์ งานแสดงรถยนต์ก็ต้องแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ โตเกียวมอเตอร์โชว์ นั่นคือความเป็น Hub คือความเป็นศูนย์กลาง
Exhibition อาจเป็น Hub ได้ แต่ MICE โดยรวมเวลาดูตัวเลข Ranking กันคงไม่ไช่ว่าที่ไหนเป็น Hub แต่จะดูว่าที่ไหนได้รับความนิยมมากกว่า ที่ไหนดึงดูดได้มากกว่า และที่ไหนมีความต่อเนื่องได้มากกว่า เช่น การประชุมของสมาคม หรือองค์กร ไปจัดที่ใดที่หนึ่งเป็นประจำได้มากกว่า ที่นั่นก็ได้เปรียบได้ธุรกิจไป
สำหรับประเทศไทย ในแง่ศักยภาพของการเป็น Hub สำหรับ Exhibition หรือ Convention ต้องพิจารณากันที่องค์ประกอบหลัก 3 ประการคือ
– ความดึงดูด มีเสน่ห์ มีความน่าสนใจแค่ไหน ความหมายของความน่าสนใจในที่นี้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่ากำลังพูดถึงอะไร ถ้าพูดถึงกลุ่มคนรักธรรมชาติ Attraction ของโปรดักต์ก็ต้องไปในทำนองนั้น หากชอบ Adventurous ก็ไปอีกแบบหนึ่ง
– มีโปรดักต์ดีแล้วทำการตลาดเป็นหรือไม่ ขายเป็นหรือเปล่า แต่หากเปรียบเทียบกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ชัดเจนมาก ประเทศไทยขายเก่งขึ้น ทำตลาดเก่งขึ้น ดูจาก สสปน. (สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)) ที่ถูกตั้งขึ้นมา
– ความสะดวกสบายของโรงแรม การจราจร และสายการบิน ดีหรือไม่ อย่างไร ถ้ามองย้อนกลับไป 10 ปี ความสะดวกมีมากขึ้น มีศูนย์การประชุมจำนวนมากขึ้น มีมาตรฐานดีขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น การเดินทางที่มีความสะดวกมากขึ้น ขอบคุณข้อมูลของคุณปรีชา สนั่นวัฒนานนท์
MICE แตกต่างจากการท่องเที่ยวทั่วไปอย่างไร
MICE ต้องเน้นพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพให้มากขึ้น ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เน้นชุมชน เร่งฟื้นฟู และพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวและบริการให้ได้มาตรฐาน รวมไปถึงอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยตำรวจท่องเที่ยว อาสาสมัคร ตลอดจนชาวบ้านที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ เรายังจะดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพดี ให้เข้ามาท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ และท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดการประชุมและแสดงสินค้านานาชาติอีกด้วย
หมดยุคแล้วกับที่การท่องเที่ยวจะหยุดอยู่แค่ การกิน การดื่ม การเที่ยวและการซื้อของฝากเป็นของฝากเหล่าญาติโกโหติกา มิตรสหายที่รักใคร่ ของฝากที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศที่มาเยือน แต่มันมีมากกว่านั้นที่จะตามมามากมายมหาศาล
MICE กับการท่องเที่ยว
Mice หมายถึง การนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวในลักษณะ Combined Destination โดยทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ จะร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมความร่วมมือทางการท่องเที่ยวภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียน อันจะเป็นการเอื้อประโยชน์ และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับการท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี
ลักษณะโดดเด่นอีกประการหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนอนาคตตลาด MICE คือ การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อยกระดับเป็นนครศูนย์กลางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการเงิน และอื่นๆ รวมถึงมีนโยบายที่ต้องชัดเจนในการดึงดูดธุรกิจต่างชาติเข้ามาจัดตั้งสำนักงานประจำภูมิภาค ทำให้นครที่เป็นศูนย์กลางต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ในปัจจุบัน นครเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่ดึงดูดจากธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนมากที่สุดในจีน โดยในปี 2551 มีบริษัทต่างชาติเข้ามาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในระดับภูมิภาครวม 224 แห่ง จัดตั้งบริษัทในรูปการลงทุนรวม 178 แห่ง และจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) รวม 274 แห่ง และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ประมาณ 70,000 คน ความเป็นเมืองศูนย์รวมธุรกิจต่างชาติเป็นโอกาสการสร้างตลาด MICE ของนครเซี่ยงไฮ้ ทั้งการจัดประชุม สัมมนา และการมาร่วมงานนิทรรศการแสดงสินค้าในนครเซี่ยงไฮ้ ในปี 2551 นครเซี่ยงไฮ้จัดงานแสดงสินค้ารวมถึง 455 งาน มากกว่ากรุงปักกิ่งที่่ 264 งาน และนครกวางโจวที่ 227 เกือบเท่าตัว