คนเราใช้ชีวิตอยู่ไม่รู้จะกี่วันต่อกี่วัน ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งตาย หากจะนับความสุขได้สำหรับชีวิตผม คงนับได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะนับความทุกข์ที่มีคงราวๆ 3 ใน 4 ส่วนของชีวิตล่ะมั้ง แถมยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตอีกด้วย ไร้แรงกระตุ้นใดๆ ให้เกิดความหฤหรรษ์เข้ามาในชีวิตได้ในตอนนี้ ยิ่งกับงานประจำยิ่งแล้วใหญ่
เคยบ่นไว้ทาง facebook เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ไม่รู้จะระบายออกทางไหนก็ลง facebook ลง instagram ลงไว้ใน twitter ฯลฯ แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเลย หนำซ้ำบางคนยังพลาดดันมีคนแชร์คนแสดงความเห็นแล้วไปถึงหูคนที่ถูกบ่นในเนื้อหา กลับกลายเป็นเรื่องน่าเครียดเข้าไปอีก ถึงเป็นผมเองก็ไม่ได้มีข้อยกเว้น ดันไปบ่นเจ้านาย เจ้านายรู้เลยไม่คุยด้วยไปหลายวัน
แต่จะให้ทำยังไงล่ะ มันเบื่อจริงๆ นี่ เริ่มแรกก็ทำงานอยู่ดีๆ คนในแผนกก็ลาออกซะงั้น ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น งานทั้งหมดเลยต้องรับเหมาอยู่ที่ตัวเองคนเดียว ก่อนนั้นต้อง contact แค่ 2-3 คน มากสุด 4 คน จนปัจจุบันต้องรับงานเพิ่มเป็น 10 คน คิดว่าจะไหวกันไหมครับพี่น้อง ถูกจ่ายงานมาพร้อมๆ กันซัก 3-4 คนก็วุ่นวายพออยู่แล้ว นี่เพิ่มมาอีกรวม 10 คน จ่ายงานมาพร้อมกันแล้วก็ยังมีการเร่งงาน จะเอาวันนี้พรุ่งนี้ ไหนงานจะแทรกเข้า ไหนงานด่วน ซ้ำยังมีงานด่วนกว่าอีก ด่วนที่สุด ทำไม่ทันครับบอกตรงๆ
ทั้งงานออกแบบ ทั้งงานเขียนโปรแกรม ทั้งงานแก้ Artwork ทั้งงานถ่ายรูป งาน IT งาน Support ต่างๆ พูดง่ายๆ คือ ถูกเรียกชื่อวันนึงไม่ต่ำกว่า 10 กว่ารอบ ถูกทวงงานวันนึงไม่ต่ำกว่า 3 รอบ มันเลยเครียด ทำให้งานที่ทำหลายชิ้นออกมาผิดพลาด มั่วไปหมด เอาอันนั้นไปปนกับอันนี้ เอาอันนี้ไปปนกับอันโน้น สุดท้ายก็โดนอยู่คนเดียว สุดกดดัน
เค้าอนุญาติให้หาผู้ช่วยได้ แต่คนมีฝีมือดีๆ ที่จะได้มาช่วยงานดันไม่ยอมมาซะงั้น เหตุผลเรื่องเงินๆ ทองๆ นั่นแหละ ไม่เกี่ยวกับการร่วมงานเลย เงินเดือนอย่างเดียว จ้างถูกว่างั้น ต่ำกว่าเงินเดือนขั้นต่ำของปริญญาตรีด้วยซ้ำ ใครเขาจะมา ส่วนพวกที่จบใหม่ๆ ทำอะไรไม่เป็นเลยก็ขอเงินเดือนซะเว่อร์ สรุปเค้าก็ให้ไม่ได้อีก สุดท้ายทุกวันนี้ก็ยังคง หาผู้ช่วยไม่ได้ งานทุกอย่างยังกองๆ รวมกัน โดนเร่งงานทวงงานทุกวัน งานผิดทุกวัน งานแทรกทุกวัน บางวันต้องออกไปทำอย่างอื่นที่ด่วนงานก็กองๆ ถูกถามหาจากเจ้านาย พอเค้าไม่เห็นว่านั่งอยู่ที่โต๊ะเค้าก็หาว่าไม่ใส่ใจงาน ทั้งๆ ที่ต้องออกไปทำงานให้เจ้านายอีกคน (เจ้านายที่สั่งมี 4 คน ตำแหน่งเท่ากันหมด)
เป็นคุณจะทำยังไงหากหัวหน้างานทุกคนมีผลต่อการขึ้นเงินเดือนกันหมด คุณจะทำตามคำสั่งใครก่อนเป็นอันดับแรก
ภาวะความกดดันสูงมาก แต่อัตราการขึ้นเงินเดือนแต่ละปี ต่ำกว่าเกณฑ์ ความสามารถที่มีมากเกินไปใช้ไม่ได้ผลกับระบบงานที่นี่ หากเป็นที่อื่น อาจจะได้ขึ้นเงินเดือนหรืออยู่ในตำแหน่งสูงๆ ไปแล้ว หากต้องทำตั้งแต่การออกไปถ่ายรูปนอกสถานที่ นำภาพมาตกแต่งเพื่อนำเสนอในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งเข้ารูปเล่มเป็นงานโบรชัวส์ ออกแบบจัดทำเว็บไซต์ เขียนโปรแกรมเพื่อใช้งานเว็บไซต์หลากหลายรูปแบบ รวมทั้ง update และดูแลตลอดอายุการใช้งาน ออกแบบและตกแต่งงานศิลปะต่างๆ Banner Artwork เพื่อให้ฝ่ายขายนำผลงานไปเสนอให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเพื่อการส่งออก แก้ไขแบบตามที่ลูกค้าต้องการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามงานกับร้านผลิตภัณฑ์บรรจุที่ต่างๆ เช่น กล่อง ถุง ฯลฯ ตรวจสอบแบบเอง
แค่งานออกแบบ Artwork และการเขียนโปรแกรม ก็ต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะทีเดียว ยังมีงานอื่นๆ อีกมากมายที่จะต้องทำ ไม่ทราบงานพวกนี้ได้เงินเดือนกันซักเท่าไหร่เหรอครับ อยากรู้ เพราะทุกวันนี้ถ้าไม่อยู่อย่างพอเพียง คงต้องเป็นหนี้เป็นสินเดือนละหลายพันบาท ทำงานที่นี่มาปีกว่ายังเก็บเงินได้ไม่ถึงครึ่งแสน แถมเงินเดือนดันออกเดือนละ 2 ครั้ง พูดตามตรง บริหารเงินยากมากทีเดียวเพราะมาแบบทีละครึ่ง แต่รายจ่ายมันไม่ได้ให้เราผ่อนจ่ายนี่ครับ ส่วนขาดทำยังไงถ้าไม่ไปยุ่งกับเงินเก็บ อยากจะถาม
อยู่ที่นี่ความสามารถมีเยอะ มันเลยทำให้งานเข้ามาเยอะ แต่รายได้เท่าเดิม คำนวณคร่าวๆ ทำซัก 10 ปี เงินเดือนยังไม่ถึง 3 หมื่นเลยกับอัตราการขึ้นเงินเดือนและควบตำแหน่งงานต่างๆ อีกทั้งการขาดงานโดยไม่ลาก็จะโดนหักโดยไม่มีข้อยกเว้นอีก ทำงานจันทร์-เสาร์ เวลาจะไปติดต่อทำธุระอะไรก็ต้องลาป่วยเอาทั้งๆ ที่ไม่ได้ป่วยจริง มันลำบาก
หลายคนบอกอึดอัดนักก็ลาออกไปหางานใหม่ ถ้างานใหม่มันหาได้ง่ายก็จะไม่ง้อเล้ย แถมการเปิดรับสมัครงานในปัจจุบัน บริษัทต่างๆ ก็เริ่มเขี้ยวขึ้นเยอะ ระบุความสามารถที่ต้องการสารพัด อยากได้นั่นนี่แบบมโหฬาร แต่สิ่งเดียวที่ไม่ถูกระบุคือเงินเดือน แต่พอถามถึงก็บอกเรียกแพงไปไม่รับ เฮ่อ..ออ
ก็ไม่รู้ว่าที่ทนทำๆ อยู่ที่จะคุ้มค่ากับสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจหรือเปล่า ที่อยู่ในสภาวะกดดันหลายๆ อย่างเพื่อรับเงินเดือนที่ไม่ค่อยจะพอกินซักเท่าไหร่เลยในตอนนี้ เบื่อสุดๆ
การลาออกครั้งสุดท้าย หวังว่าในอนาคตมันจะถึงเวลาของผมบ้าง