นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล เป็นปลื้มหลังเปิดขายไอพีโอ SPVI วันแรก นักลงทุนตอบรับคึกคัก เชื่อเพราะมั่นใจเป็นหุ้นพื้นฐานดี อนาคตสดใน ลูกค้ามั่นใจสินค้า Apple มีคุณภาพ เล็งขยายกลุ่มลูกค้าองค์กรเสริมความแข็งแกร่ง ควบคู่ลูกค้ารายย่อย มั่นใจหุ้นขายหมดแน่หลังเปิดจองในวันที่ 11-13 ธ.ค.56นี้

ด้านสมภพ กีระสุนทรพงษ์ ซึ่งเป็นทีีปรึกษาทางการเงิน และลีดอันเดอร์ไรต์ ชี้ SPVI กระแสแรงเหตุ กำหนดราคา IPO อยู่ที่ 0.90 บาท เหมาะสมกับพื้นฐาน มั่นใจสร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุน ยืนยันลงสนาม mai 19 ธ.ค.นี้ ตามนัด

นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การเปิดขายหุ้นไอพีโอ ระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2556 โดยวันการเปิดขายวันแรกมีนักลงทุนให้ความสนใจหุ้น SPVI เป็นอย่างมาก

นายไตรสรณ์กล่าวได้กล่าวว่า สำหรับการตอบรับดังกล่าว คาดว่ามาจากนักลงทุนมีความมั่นใจในพื้นฐานของ SPVI ว่าน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นได้ เนื่องจากบริษัทประกอบธุรกิจหลักเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple ทั้งคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ประเภท iOS และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ เพื่อใช้งานร่วมกับสินค้า Apple เป็นหลัก ซึ่งเป็นสินค้าที่ผู้ใช้ทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีผู้ใช้บางกลุ่มที่มีความชื่นชอบในตัวสินค้า และติดตามซื้อสินค้าใหม่ๆ ทุกครั้งที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่

ข่าวร้ายที่อยู่ในเรื่องดีๆ ไหมฝัน

ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน SPVI กล่าวว่า หุ้น SPVI จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ( mai ) ในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ และจากการที่นักลงทุนสนใจติดต่อเข้ามาค่อนข้างมากในการเปิดขายไอพีโอวันแรก (11 ธ.ค.) นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกำหนดราคาไอพีโอที่มีความเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน โดยกำหนดราคาไอพีโอที่ 0.90 บาท มี P/E อยู่ที่ 14.02 เท่า อีกทั้งยังมีส่วนลดประมาณ 49.88% จาก P/E Ratio ของตลาดหลักทรัพย์ mai ย้อนหลังเฉลี่ยในช่วงเวลาระยะเวลา 3 เดือน (1 ก.ย.-30 พ.ย.2556) ซึ่งเท่ากับ 27.97 เท่า และมีส่วนลดประมาณ 61.78% จาก P/E Ratio เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับ SPVI ในช่วงเวลาระยะเวลาย้อนหลัง 3 เดือนเช่นเดียวกันซึ่งเท่ากับ 36.69 เท่า

และนายสมภพยังได้กล่าวต่ออีกว่า ความผันผวนทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลต่อการเปิดขายของ SPVI เนื่องจากบริษัททำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple เช่น iPhone iPad หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac OS ที่เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทั้งด้านการติดต่อสื่อสาร และการทำธุรกิจ ซึ่งต้องมีการอัปเดตให้อุปกรณ์มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ เพื่อให้สนับสนุนการทำงานขององค์การให้สามารถแข่งขันได้ ดังนั้น ยอดขายจึงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ที่มา http://manager.co.th