มันไม่เชิงหรอกว่าครอบครัวผมจะเป็นครอบครัวอบอุ่น และเชื่อว่าครอบครัวของหลายๆ ท่าน ไม่ว่าจะครอบครัวไหนก็จะต้องมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันแน่นอนไม่ระหว่างคู่สามีภรรยา ก็พ่อกับลูก แม่กับลูก หรือคนในบ้านใครซักคน ถามว่าดีไหม มันก็ไม่ดี แต่ถามว่าถ้าไม่ทะเลาะกันเลย ก็ไม่น่าจะใช่ครอบครัว
ความระหองระแหงนิดๆ หน่อยๆ ปัญหาเล็กน้อยถึงปานกลางส่วนใหญ่สำหรับครอบครัวผมแล้วมักเกิดจากปัญหาเรื่องการเงินเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนปัญหาอื่นแทบไม่มี ถึงจะเคยมีแต่ก็เป็นแค่อดีตไปแล้วขอไม่พูดถึงอีก เอามาว่ากันด้วยเรื่องปัญหาที่ทะเลาะกันล่าสุดระหว่างผมกับภรรยา และก็ถือเป็นบทเรียนสำหรับผมเลยก็ว่าได้ (ถ้าเธอเข้ามาอ่านก็อาจจะรู้ว่าผมรู้สึกอย่างไร)
เย็นวันพฤหัสบดีวันหนึ่งหลังจากผมไปรับลูกชายกลับจากโรงเรียนก็แวะเข้าบ้านและก็ได้มีโอกาสขับรถไปส่งคุณป้า เรื่องมันค้างจากวันพุธ วันหวยออก ภรรยาผมเค้าเป็นคนชอบเสี่ยงโชค แต่ผมไม่ค่อยชอบ ความคิดผมคิดว่าไม่มีใครรวยจากการเสี่ยงโชค วันนั้นเหมือนเธอจะไม่ถูกหวย และผมเองก็ไม่ถูก (บางงวดผมซื้อล๊อตเตอรี่) ผมเลยบ่นว่าผีหลอกล่ะ (เอาความฝันไปตีเป็นเลขซื้อหวย) งวดนั้นผิดทั้งคู่ ลูกชายได้ยินเลยล้อว่าผีหลอก ผมก็ผิดเองดันบอกเสียงดัง
เย็นวันพฤหัสบดีเธอเลยบอกว่าไม่ชอบที่ผมสอนให้ลูกพูดเรื่องโดนผีหลอก(ให้ซื้อหวย)เพราะเกรงใจป้าเค้า เหมือนเธอจะโชคไม่ดีแต่ไม่เกี่ยวกับผี ผมเลยบอกไม่ได้ว่าหล่อน แต่ว่าตัวเอง และก็บอกว่าเธอก็น่าจะเลิกงมงายได้แล้ว หมดเงินไปเยอะแล้วกับเรื่องหวย (ผมคิดว่าเธอน่าจะหมดไปครั้งละหลายร้อยถึงหลักพัน เดือนๆ นึงไม่รู้เท่าไหร่) อีกอย่าง ค่าใช้จ่ายของเรามันเริ่มเยอะ ไหนจะค่าเทอมลูก ค่ารถโรงเรียน เจ้าตัวเล็กกำลังอยู่ในวัยเข้าเรียนตอนนี้ 2 ขวบกว่าจะ 3 ขวบแล้วยังไม่ได้เข้าเรียนเลย ค่ากิน ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ เหมือนภาระมันตกอยู่ที่ผมคนเดียว (ผมคิดแบบนั้น)
ผมลองคำนวณดูรายได้ของเธอจากงาน เธอบอกจ่ายค่าแชร์ ค่าบัตร ค่าโน่นนี่ เหลือเงินเดือนละ 700 กว่าบาท มันจะพอที่ไหน ส่วนผมได้เงินวันละ 100 ไปทำงาน เงินเดือนเธอริบหมด วันไหนไม่ไปทำงานก็ไม่ได้ หล่อนคุมถุงเงิน เวลาผมอยากได้อะไร ถ้ามันจำเป็นผมจะบอกเธอ เธอก็ไม่เคยขัด แต่พอผมจะจ่ายกลับต้องตัดบัตรตัวเอง ไม่ได้ใช้เงินที่เธอเก็บเอาไว้ หลายอย่างผมอยากใช้อยากได้อยากมี แต่ก็ต้องเก็บความอยากได้เอาไว้ บางครั้งต้องอดข้าวเพื่อจะเก็บเงินที่ได้วันละ 100 นั่นไปสะสมไว้ซื้อหรือเอาไปทำธุระจำเป็น หรือบางทีก็หารายได้จาก internet เล็กๆ น้อยๆ ถามว่ามีรายจ่ายไหม ทั้งหมดที่ผมทำก็เพราะทำให้เงินมันงอกเงยขึ้นมาเพื่อจะพอกับภาระของเจ้าสองตัว และเผื่อเก็บเอาไว้ตอนฉุกเฉิน เวลาเงินเดือนผมหมด (เพราะเธอเอาไปใช้) เงินที่ผมสะสมไว้ก็จะมีโอกาสเอาออกมาใช้ นั่นไงถ้าผมไม่ทำแบบนี้ผมจะมีไหม วันก่อนค่ารถโรงเรียน 2 เดือนก็เงินตรงนี้ที่ช่วยไว้ ก่อนนั้นค่าแก๊ส ก่อนนั้นค่าข้าวสาร ก่อนนั้นอีกค่า ฯลฯ
ถามว่าผมผิดไหมที่บอกให้หล่อนประหยัดๆ หน่อย ให้เลิกเล่นหวย เลิกจ่ายอะไรไร้สาระ (เครื่องสำอางค์แพงๆ) ของเล่นลูกแพงๆ ที่หล่อนบอกผ่อนเค้าเดือนละไม่กี่บาท หล่อนบอกแต่ละวันแทบไม่ได้ใช้อะไรเลย กินก็ไม่ค่อยได้กิน ของกินในบ้านกับเรื่องลูกๆ ทั้งนั้น ทุกๆ เย็นต้องมาล่ะ ขนมนมเนย ของกินเต็มบ้านให้เด็กๆ แล้วมันเหมาะไหม เด็กอยากกินของพวกนี้ก็จริง แต่เค้าก็กินข้าวอีก ให้กินน่ะผมไม่ว่า แต่มันทุกวัน ของใน 7-11 ถามว่าเดินเข้าไปกลับออกมาด้วย นม 2 กล่อง น้ำผลไม้ 2 กล่อง แซนวิส ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ แค่ผมซื้อกินตอนเที่ยง แซนวิสกับนมก็ปาเข้าไป 50-60 บาทแล้ว นี่ตกวันละเท่าไหร่ ผมลองคำนวณเล่นๆ เพราะไม่รู้รายได้-รายจ่ายเธอเลย แต่เธอรู้รายได้รายจ่ายผมหมด มันก็มากโข แต่ดูเหมือนผมเงินเดือนเยอะจริง ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ก็แทบจะอยู่กันสบายในชีวิตนี้ แต่ทำไมเวลาจะเอาโน่นเอานี่ มันติดขัดไปหมด คนเรามันเครียดเวลาล้วงกระเป๋าแล้วไม่เจอเงิน แต่ความเป็นห่วงนั้นกลับได้รับกลับมาด้วยการโมโห ไม่คุยด้วย หงุดหงิด หล่อนอยากหนีไปให้พ้นๆ ผมไม่เข้าใจ
ส่วนดีของเธอดีหมด ทำอาหารเก่ง อร่อย รักใคร่ดูแลตัวผม ลูกๆ พ่อแม่ได้ดี จิตใจดีชอบช่วยเหลือคนแต่ก็โดนเค้าหลอกให้เสียเงินอยู่บ่อยๆ หนักๆ เวลาลำบากหาพึ่งคนที่ช่วยๆ ไว้ไม่มี ทำคุณคนไม่ขึ้น เธอดีหมด เว้นแต่เรื่องเงิน ทำไมถึงต้องปิดบังอะไรนักหนาก็ไม่รู้
ผมแค่อยากจะให้เธอประหยัด ถ้าประหยัดแล้วก็ประหยัดอีก ใครลำบากมาเธอก็ช่วย ใครอดอยากมาเธอก็ซื้อให้กิน ผมยอมอดให้เธอได้อิ่ม เธอยอมอดให้ลูกได้อิ่ม ให้พ่อแม่ได้อิ่ม ให้ผมได้อิ่ม แต่การที่เราทำให้คนอื่นสบายมากๆ มันใช่ว่าจะดีไปทั้งหมด คือความดีมันก็ดี แต่มันจะพากันลงเหวทั้งหมด บางครั้งผมก็คิดว่า ผมโตมาขนาดนี้ไม่ใช่ว่าตัวเองจะดีเด่ แต่ผมคิดว่าผมก็ไม่ได้เลวร้าย สิ่งที่ทำให้ผมเป็นคนดีได้ก็ความลำบาก เธอน่าจะคิดถึงจุดนี้ แต่เธอเองก็ไม่เคยลำบาก เธอกลัวคนใกล้ตัวลำบาก เธอเลยทำแบบนี้ ผมก็พูดยาก แต่เวลาเราเดือดร้อนไม่เห็นจะพึ่งพาใครได้ ทำไมไม่เคยคิดบ้าง เคยของบรายรับ-จ่ายของเธอ ก็ไม่เคยจะให้ ขอมา 4-5 ปีแล้วไม่เคยได้ ขอบ่อยก็หงุดหงิดใส่ ทำไมมนุษย์เมียมันเป็นแบบนี้ทุกคนเหรอ เวลาบอกว่าจะขอจัดการเงินเอง ก็หงุดหงิดใส่ ทั้งๆ ที่เงินนั่นผมก็หามาเอง ผมขอเข้าไปจัดการเหมือนตอนแรกๆ ไม่ได้เหรอ? เธอหงุดหงิดใส่ ทะเลาะกันอีก พาลไปเรื่องค่าใช้จ่ายเครื่องสำอางค์เอย ค่าโน่นค่านี้เอย ทำนองว่าไม่ใช้ก็ได้ เบื่ออยากหนีไปให้พ้นๆ ….จบข่าว
ผมบอกสาบานว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก เธอไม่พูดกับผมในวันนั้น และผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เหมือนผมมีหน้าที่หาเงิน เธอมีหน้าที่จัดการใช้เงินบริหารเงิน ถ้าเธอเข้าใจผมยังไงก็ขอให้รับรู้ไว้ ผมจะเงียบเรื่องนี้อีก จะเกิดอะไรขึ้นผมไม่สนแล้วล่ะ ผมเหนื่อย บางทีผมก็อยากพักบ้าง พักยาวๆ
ขอบคุณที่อ่าน วันนี้ไร้สาระมากมาย งงกับตัวเอง พิมพ์ไปงงไป