วันนี้ (8/12/64) ตื่นเช้ามาโคตรขี้เกียจ อากาศน่านอนมาก หนาวๆ อุ่นๆ ในผ้าห่มผืนโตเหมือนอยู่ในห้องแอร์ก็ไม่ปาน

แต่ทำไงได้ ต้องตื่น 6 โมงเช้า ขอสายหน่อยเหอะหน้าหนาว ฟ้ายังไม่เปิดเลย 6 โมงเช้านี่พอกับตี 5 ฟ้ายังมืด แต่ต้องลุกพาเจ้ามีตังก์ออกไปวิ่งเล่นและทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ ก่อนจะทำกับข้าวกินพร้อมกันทั้งหมาทั้งคน

ระหว่างนั้นก็ใส่หญ้าแห้งไว้ในกรงกระต่ายให้เจ้าบู้บี้กับปีโป้เผื่อจะหิว ก็รู้อยู่กระต่ายกินทั้งวัน แล้วก็ค่อยปัดกวาดสิ่งสกปรกออกบางส่วนทั้งในกรงนอกกรง ค่อยจัดการแบบละเอียดในวันอาทิตย์ ก็นี่มันวันพุธเอง เสร็จแล้วก็ดึงผ้าเช็ดตัวพาดบ่า หยิบมือถือเข้าไปนั่งดูพร้อมกับปลดทุกข์ไปด้วยในห้องน้ำ

อาบน้ำสระผม โหย แย่หน่อยเช่นนั้นแล้วที่บ้านไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นซึ่งนี่ก็แปลว่ามันก็จะหนาวๆ เย็นๆ ต้องวิ่งผ่านน้ำสองสามรอบถึงจะได้อาบจริงๆแบบเดอะแฟลช

แต่งตัวเตรียมพร้อมไปทำงาน ไม่ลืมที่จะจุ๊บเหม่งสาวๆ ที่กำลังนั่งเรียนออนไลน์อยู่กับบ้าน เดินไปสตาร์ทรถขับออกมาฝ่าลมหนาวในตอน 8 โมงเช้าพอดี วันนี้และทุกวันก่อนนี้ก็ดีหน่อยที่รถไม่ติด นักเรียนเรียนออนไลน์กัน กว่าจะเปิดเรียนจริงๆ ก็คงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า (2565) อีกสองเดือนเอง ถึงตอนนั้นอะไรๆ ก็คงกลับสู่สภาวะปกติ รถติด ควันพิษ และผู้คน

รีวิวงานในแต่ละวันของตัวเอง ทุกวันต้องทำอะไรบ้าง

แต่ก็ไม่แน่ โอไมครอนกำลังระบาด ปีใหม่นี้งานหยาบอีกแน่นอน ก็นั่งลุ้นกันว่าปีใหม่จะเจอกับอะไรอีกหว่า ยังดีที่ยังมีงานทำมีเงินเดือนกิน แต่จะสู้ได้อีกนานแค่ไหนถ้าหากเจอกับโรคระบาดที่บางคนไม่มีปัญญาจะควบคุมมันได้

ในแต่ละวัน ผมต้องทำงานอะไรบ้าง มาดูกันเลย

ถึงที่ทำงานประมาณ 8.20 น. หาอะไรกินและซื้อไปตุนตอนมื้อเที่ยงนิดหน่อย ขนาดนิดหน่อย ก็หมดไป 250 บาท (200 ค่าสลากกินแบ่ง แน่นอนยังตาม 81 อยู่เหมือนเดิม) กับค่าของกิน 25 ค่าชาเขียว 25 รวมแล้ว 50 บาท วันนี้ประหยัดไปได้ 50 บาท เพราะเอาข้าวมากิน ถ้าหากไม่มีข้าวมากินนี่ ก็ต้องเสียเงินค่าอาหารเที่ยง 40 บาท + น้ำ 10 บาท รวม 50 บาท วันนึงใช้จ่ายอย่างต่ำๆ 100 บาท นี่ถือว่าประหยัดสุดแล้วสำหรับชานเมือง ถ้าหากอยู่ในเมืองนี่พกมา 200 แทบจะหมดตูด ขนาดประหยัดแบบนี้ เงินเหลือเก็บแต่ละเดือนยังแทบไม่พอ

ถึงเวลาทำงานแล้ว 8.30 น. งานชิ้นแรกของวันก็เช่นนั้นแล้วงานชิ้นสุดท้ายของเมื่อวาน ค้างอยู่นิดหน่อยยังไม่เสร็จดี เขียนแบบและทำ artwork สำหรับงานสกรีนอุปกรณ์อะไรซักอย่าง

ใช้เวลาเกือบ 1 ชม. ส่งงานไปยิงฟิล์มกับร้านเพื่อเอามาเทียบกับงานจริง ถ้าหากผ่านก็ทำบล็อคสกรีนในขั้นต่อไป ถ้าหากไม่ผ่านก็แก้กันจนกว่าจะตรง 2-3 รอบนั่นแหละ บางทีทำบล็อคสกรีนมาแล้ว สกรีนจริงๆ ก็อาจยังไม่ตรงตำแหน่งดี ก็ต้องมาปรับแก้กันอีก งานแบบนี้ต้องทำไปแก้ไปจนกว่าจะได้ 98% ต้องใช้ฝีมือและสายตารวมไปถึงความแม่นยำสูงมาก ทำเสร็จส่งงาน แล้วก็เริ่มงานอื่นต่อตามลูกค้าแจ้ง บางรายส่งไฟล์ artwork มาให้ก็ง่ายหน่อย เรานำมาแยกสี ปรับระยะให้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการแล้วยิงฟิล์มทำบล็อคได้เลย แต่บางงานอย่างเช่นชิ้นนี้ ลูกค้าไม่มีแบบมาให้ ต้องทำเองตั้งแต่เริ่มแรก

รีวิวงานในแต่ละวันของตัวเอง ทุกวันต้องทำอะไรบ้าง

หมดไปครึ่งวัน รวมงานแล้วประมาณ 4 ตัว ตัวละ 1 ชม. แทบไม่ได้พัก ขนาดไม่ได้พักเราก็ยังหาเวลาว่างมานั่งเขียนบล็อกนี่ได้เนาะ ฮาๆๆ

นี่แหละงานที่เกี่ยวข้องกับเราสำหรับครึ่งวันแรก วันนี้อาจได้เขียนสองเรื่อง เช่นนั้นแล้วงานครึ่งวันบ่ายอีกหน หากงานยุ่งคงยกยอดไปพรุ่งนี้เช้า

คนทำกราฟิกต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน

นี่แหละงานในแต่ละวันของกรู ไม่มีอะไรมากมาย

  1. รับแบบมาทำ
  2. ทำให้เสร็จเร็วที่สุด
  3. จบ ส่งงาน รองานต่อไป

วนเวียนอยู่อย่างนี้ซึ่งนี่ก็แปลว่าก็น่าเบื่อเล็กน้อยถ้าหากงานเยอะมากๆ แทบจะไม่มีเวลาพักกันเลย

สำหรับเนื้อเรื่องเรื่อง รีวิวงานในแต่ละวันของตัวเอง ทุกวันต้องทำอะไรบ้าง นี้ เช่นนั้นแล้วในมุมมองของผมที่เป็นพนักงานกราฟิกในโรงงานบล็อคสกรีนอ่ะนะ ส่วนรายละเอียดงานและขั้นตอนในการทำงานนั้นอาจมีเยอะกว่านี้ แต่ไม่สามารถเขียนออกมาได้ว่า แต่ละขั้นตอนต้องทำอะไร อย่างไร เพราะมีเยอะมากปรับเปลี่ยนไปตามเนื้อเรื่องของชิ้นงานนั้นๆ แต่หลักๆ ก็เช่นนั้นแล้วตามที่บอก เขียน artwork ในโปรแกรม illus ให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ จัดการแยกสี ปรับโทนให้สามารถพิมพ์ลงบนแผ่นฟิล์มเพื่อเตรียมไว้สำหรับในขั้นตอนของการทำบล็อคสกรีน

เสร็จแล้วก็ไปเตรียมบล็อคสกรีน ปาดกาว แล้วถ่ายลาย ถึงจะล้างบล็อค จบก็มาเริ่มทำใหม่ตั้งแต่ทำ artwork อีกรอบจนกระทั่งรอลูกค้ามารับ วันนึงๆ ทำแบบนี้คนเดียวอาจได้ไม่กี่ชิ้น แทบจะไม่มีเวลาหยุดเลยล่ะถ้าหากมีงานเข้ามาพร้อมกัน บางครั้งขึ้นบล็อคแล้วยังผิด ลายไม่ตรงก็ต้องมาล้าง ทำ artwork ใหม่ ถ่ายฟิล์มใหม่ตั้งแต่ต้น กว่าจะจบใช้เวลานานมาก

คร่าวๆ ก็แนวๆ นี้

แต่ก็นะ มีงานทำ มีเงินเดือน ดีกว่าไม่มีเนาะ

หมายเหตุ : ลืมบอกไปว่าเนื้อเรื่องในหน้านี้ ถ้าหากผู้อ่านไปเจอเรื่องที่คล้ายๆ กันแล้วเย้ายวนใจให้อ่านแล้วเข้าใจว่า เฮ่ยเนื้อเรื่องแบบเดียวกันเลยนี่หว่า นั่นแสดงว่าผมได้สปินบทความจากหน้าที่ให้มันเกี่ยวข้องกัน ถ้าหากเจอเนื้อเรื่องแบบนี้คล้ายกันแสดงว่ามาจากผมนี่แหละเป็นคนให้ข่าวว่ามันเช่นนั้นแล้วงานผมเอง