ถึงไหนแล้วเรื่องงานที่มีรายได้สูงของผม ดูเหมือนผมจะจำไม่ค่อยได้แล้ว ที่เขียนมากะว่าจะเล่าคราวๆ ไหงโผล่มาตอนที่ 8 แล้ว อย่างกะซีรี่ย์ดังที่ไม่มีคนอ่านเลยก็ว่าได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ ให้มันจบๆ กันไปแต่ก่อนจบผมก็มีประสบการกับที่สุดท้ายอีก 2 เรื่อง ก็มาฟังๆ อ่านๆ กันดูหน่อยนะครับ ใกล้จบแล้วล่ะ

หลังจากตอนที่แล้วผมเดินออกมาจากสถานที่ทำงานที่ผมคิดว่า ดีที่สุดในชีวิตผมแล้วทั้งระบบการทำงาน ทั้งเพื่อนร่วมงาน ทั้งแผนกที่มีเป็นสัดส่วน รูปแบบของ Office ก็ทั่วไปไม่เหมือนห้องเรียนแต่เป็น Office ของคนทำงานจริงๆ และตึกสำนักงานก็หรูหราอลังการงานสร้างจริงๆ มันเหมาะที่จะเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆ คนและเป็นงานที่มีรายได้สูงในฝันของหลายคน เพราะมันอยู่กับด้านเงินๆ ทองๆ เป็นบริษัทเกี่ยวกับการจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ แน่นอน เงินดี โบนัสดี ที่สำคัญ ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นอย่างเดียว คือ หัวหน้า

เมื่อหัวหน้าเส็งเคร็ง ต่อให้เราเก่งแค่ไหนมันก็จะบอกว่า มันจะเก่งกว่าเรา แม้เราจะทำอะไรเป็นหลายอย่าง มันก็จะบอกว่าถ้ามันมีเวลามันก็จะทำได้เหมือนเรา อันนี้เถียงไม่ออก สรุปคือ เออ มันเก่ง เราไม่อยู่ดีกว่า ผมเดินออกมาจากที่นั่นไม่นาน (ประมาณปีกว่าๆ) ก็ได้ข่าวว่าน้องๆ พี่ๆ ก็ออกตามกันมาอีกคนสองคน มีบางคนโดนจ้างออกด้วย ส่วนเจ้าหัวหน้าคนนั้น ปัจจุบันมันก็ไม่ได้ขึ้นมานั่งเป็นผู้อำนวยการ มันก็ยังคงทำงานเหมือนเดิมตำแหน่งเดิม เพียงแต่มีลูกน้องมากขึ้นเพราะองค์กรโตกว่าเดิม

เป็นพนักงานเงินเดือน ต่อให้เราทุ่มเทจนตัวตายก็ได้แค่นั้น ถึงเราจะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าออกมาก็ใช่ว่าบริษัทมันจะเจ๊ง เราเลือกที่จะเป็นอย่างฝันดีกว่า ยกเว้นจะอยู่ในรูปแบบเดิมๆ มีคนบางคนบอกว่า ถ้าจะย้ายงานต้องได้ที่ดีกว่า แต่สำหรับผมดูเหมือนมันจะเป็นประเภทหนีเสือปะจรเข้ ผมเดินออกมาล่าฝันกับตำแหน่งใหม่ที่เริ่มจากศูนย์ คือไม่เป็นเลยอาศัยแนวคิดและเป็นคนประเภทน้ำไม่เต็มแก้ว ที่ใหม่ผมเรียนรู้งานใหม่เพียงเดือนสองเดือนก็ขึ้นถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ (คงเพราะแถวนั้นไม่มีคนเป็นงานกันเลย) แต่ใช่ว่ามันจะดี แม้จะได้เงินพอยาไส้ แต่ความกดดันก็มีสูง แถมต่างจังหวัดก็มีสภาพเป็นโรงงานมากกว่า Office ทำวันเสาร์ด้วย ที่นี่จ่ายเงินเป็นรายวันอีกตะหากและเดือนละ 2 หน

ผมไม่คุ้นกับระบบนี้ ผมจึงชักหน้าไม่ถึงหลังไป 3 เดือน เข้าเดือนที่ 4 ถึงพออยู่ตัวแต่บังเอิญมีที่ใหม่เสนอเงินเดือนและให้รับผิดชอบโปรเจคที่มันเข้ากับทักษะที่มีของผมอย่างมาก ผมจึงขอลาออกในเดือนที่ 4 แบบผ่านโพเพชั่นแล้ว เค้านึกเสียดายแต่เพื่ออนาคตผมก็ยอมให้ออกมา ผมทำอยู่ที่นั่นแทบจะไม่รู้ว่าเจ้านายมีนิสัยอย่างไร แต่ 4 เดือนที่คลุกคลี ก็ไม่ได้เลวร้าย ที่สำคัญ ไม่เหมือนที่ผมเจอมาทั้งหมด ออกจะดีด้วยซ้ำน่าจะสนับสนุนผมให้ไปต่อได้อีกไกล

ผมมาที่ใหม่ทำงานอยู่ 5 เดือนทำไมมันไม่เป็นอย่างที่ตกลงกันเหมือนตอนที่ผมทำงานอยู่ ตอนแรกบอกนู่นนี่ได้หมดลุยเลย ถ้าทำได้ผมให้อย่างนั้นอย่างนี้ ผมมีแนวคิดมากมายแต่ขาดคนทำ แต่พอผมมาทำให้กลับบอกไม่เวิร์ค อ่าวนี่คุณไม่รู้ว่าแนวคิดของคุณมันเวิร์คหรือไม่เวิร์คได้ไง ผมก็บอกแล้วว่ามันไม่เวิร์ค คุณยังดันทุรัง พอทำสำเร็จกลับบอกไม่เวิร์ค แล้วที่ผมเสียเวลากับคุณมาล่ะ จบโปรเจคมันบอกแล้วแต่คุณจะตัดสินใจละกัน ผมไม่ห้าม ซวยผมเลย วันนั้นก็ขับไปประกันสังคมเลย บอกลาออกจากที่ทำงานที่นี่แล้ว บลาๆ พร้อมยื่นเอกสารต่างๆ กะว่าจะไม่ทำแล้วงานประจำ ออกมาลุยเองดีกว่า

CNA Job Description Duties

ความฝันเรื่องงานที่มีรายได้สูง ของผมคงไม่ใช่งานประจำอย่างที่ผมเข้าใจมาตลอด หรือว่าผมจะต้องมีธุรกิจของตัวเองถึงจะทำความฝันเรื่องเงินของผมได้ ผมอยากมีบ้าน มี Office มีงานที่ผมชอบนั่งทำอย่างมีความสุขในห้อง หรือว่านี่คือสิ่งที่ผมจะต้องเผชิญและมันจะประสบความสำเร็จ ใช่ มันเป็นธุรกิจของตัวเอง หลุดพ้นจากพนักงานประจำซักที

ขอให้ผมคิดถูก ผมคิดอย่างนั้นก็เลยตั้งหน้าตั้งตาเอาเงินเก็บทุกบาททุกสตางค์ ซื้อคอมฯ 1 เครื่อง พ่วงเน็ต บ้านไม่มี เสียค่าเช่าให้กับบ้านน้า จ่ายค่า Net เองทำอะไรเองเหมือนเช่าพื้นที่บ้านเค้าทำ Office ในฝัน เดือนแรกไม่เวิร์ค ทำงานมาเงินเข้าไม่พอกิน ดีที่ยังมีเงินของประกันสังคมที่ได้มาสองสามเดือน พอค่าน้ำค่าไฟค่ากินไปได้บ้าง เดือนนั้นรายจ่ายเยอะ

สองสามเดือนผ่านไปรายได้แทบไม่พอรายจ่าย ผมทำงานหนักแต่มันยังไม่เห็นผลเท่าไหร่ ช่วงนั้นเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นพอดี ผมประโคมข่าวแผ่นดินไหวเพื่อให้ยอดผู้เข้าชมเว็บกระเตื้องขึ้นเผื่อมันจะมีอะไรเข้ามาบ้าง ได้ผล แต่แค่พักเดียว พอข่าวหายผมก็ไม่มีแรงพออีกเพราะทำคนเดียว ตามข่าวหลายเรื่องทำไม่ไหว วันๆ นึงผมทำบทความกว่าร้อยเรื่อง update เว็บกว่าร้อยเว็บ ทำไม่ทัน เหมือนเวลาของตัวเองน้อยยังไงไม่รู้ สรุปเหนื่อยแทบตาย รายได้ที่ได้มาก็ดีกว่าเดือนแรกๆ ผมเริ่มจับทางได้

แต่มันก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่มันจะเวิร์ค เดือนต่อมาผมกินแกลบเพราะสู้เว็บใหญ่ไม่ไหว ไม่มีเงินจนต้องขายกองทุนที่สะสมไว้เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย ผ่านไป 6-7 เดือนก็ยังไม่เข้าที่ แม้จะฝันว่ามันจะทำเงินได้บ้างกับเรื่องทำเว็บ จนผมท้อ เข้าเดือนที่ 10 และปีใหม่ นี่ผมตกงานมาปีกว่าแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย หรือธุรกิจของผมนี้มันจะไม่เวิร์คอีกล่ะ

สิ้นปีเพื่อนๆ ต่างคุยโม้กันเรื่องโบนัส ผมได้แต่หนีแอบไปนั่งหลบมุมไม่พูดไม่จา นั่งขีดๆ เขียนๆ อะไรเพลินๆ ลูกชายถือขนมมาให้ ผมมองเจ้าตัวเล็กที่กำลังหัดเดินเตาะแตะพลางก็คิด ผมเป็นพ่อที่ตกงานและใช้ไม่ได้เลยนะ นับจากนั้นผมก็ไม่หยุดทำงานอีก ผมนั่งทำงานหามรุ่งหามค่ำหวังว่าซักวันมันจะเป็นของผมให้ได้ งานที่มีรายได้สูง และสามารถเลี้ยงครอบครัวได้

สิทธิใหม่ การรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ได้ทุกโรงพยาบาล

ปีแรกสิ้นสุดไปแล้วแทบไม่ได้อะไรมาเลยแค่พออยู่พอกินแต่ก็ต้องขายสมบัติไปบ้างบางส่วน พอเข้าปีที่สองเพียงครึ่งปีเท่านั้น รายได้ก็ไม่รู้มาจากไหนเป็นกอบเป็นกำ แต่มันไม่มั่นคง ถ้าผมหยุดทำมันก็จะหายไป เรียกว่าต้องขยับกันตลอด มันทั้งเหนื่อยและท้อแต่ก็ไม่ถอย เข้าครึ่งปีแรกผมมีเงินเก็บจนสามารถปิดงวดรถได้ ผมไม่ต้องผ่อนมันอีกแล้ว ผมมีเงินพอจะซื้อประกันให้ลูกและให้ตัวเอง ผมมีเงินพอจะมาครอบครัวไปเที่ยว เดือนที่ 6 ผมตัดสินใจลองหยุดพักซักอาทิตย์นึงแล้วพาครอบครัวไปเที่ยว เราสนุกสนาน แต่พอกลับมาและผมเปิดงานดู

ให้ตายเหอะ รายได้ลดลงฮวบๆ นี่มันต้องขยับถึงจะเกิดเงินหรืออย่างไร ผมเหนื่อยสุดๆ เพลียจากเที่ยวด้วยเครียดเรื่องเงินร่อยหรอด้วย เลยหลับไปแบบเครียดๆ ผมมาคิดๆ ดูแล้ว ผมทำงานตัวเอง 9 โมงเช้า พักบ้างไม่พักบ้าง เลิกก็ประมาณ 6 โมงเย็น ไม่ได้ทำต่อเนื่องเพราะบ้านน้าเค้าก็ต้องใช้พื้นที่ ไม่ใช่มาเช่าเค้าแล้วจะทำได้ 24 ชั่วโมง ผมก็ต้องกลับบ้านผม มันไม่เต็มที่ บางทีคิดงานออกแต่เป็นเวลากลางคืนก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งวาดๆ เขียนๆ เอาในสมุดจด บ้านตัวเองเน็ตก็เข้าไม่ถึง ต้องพึ่งคนอื่น

วันรุ่งขึ้นเพื่อนที่ทำงานเก่าโทรมาบอกเจ้านายอยากให้ไปช่วยทำนั่นนี่ ลองมาคุยกันหน่อยเห็นตกงานอยู่ ผมคิดว่าถ้าอุปสรรคของผมมันเยอะขนาดนี้ คงยังไม่ถึงเวลาเดินเอง ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับเจ้านายเก่าที่เคยทำกับเค้าแค่ 4 เดือนแล้วลาออกไป ปรากฏเค้ารับเข้าทำเพราะต้องการคน แต่ผมอ่านเกมนี้ไม่ออก และผมพลาดอย่างแรง

พลาดหลายเรื่องเลยด้วย จะเป็นเรื่องอะไรนั้น รอฟังตอนจบครับ