ในชีวิตของคนเรานั้น สิ่งที่ทำให้คนมีคุณค่าสมกับที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การสะสมทรัพย์สมบัติไว้จนล้นเหลือใช้ แต่คือการพัฒนาจิตใจตัวเอง ให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ กับการเอาชนะใจตัวเองต่อกิเลศต่างๆ ที่สามารถสร้างความสุขใจโดยที่ไม่ต้องใช้อะไรแลกเปลี่ยน

จากสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมในปัจจุบัน ที่ต้องมีการแข่งขันกันตลอดเวลา ส่งผลให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดไปว่า วัตถุ จะทำให้เรามีความสุขได้ ถ้าหากพิจารณาตามบทแห่งความเป็นจริงแล้ว ทรัพย์สิน ก็เป็นเพียงสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้เราสามารถใช้ชีวิตในโลกใบนี้ได้ แต่เมื่อเราจากไปแล้วสิ่งที่ถูกสะสมไว้ ก็จะต้องตกไปอยู่ในมือคนอื่น เพราะฉะนั้น มันจึงเป็นความสุขชั่วคราว แม้ว่าวัตถุเองจะส่งผลต่อจิตใจให้เรามีความสุขและสามารถอยู่บนโลกนี้ได้นาน แต่ความสุขที่ชั่วคราวนี้ จะไม่ยั่งยืน ในบางครั้งความสุขที่มีก็อาจกลายเป็นความทุกข์ระทม

ลองสังเกตุดูว่าเมื่อเราได้ในสิ่งที่เราอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ ที่ดิน สิ่งของ ฯลฯ เราจะดีใจเป็นสุขอยู่เพียงแค่ในช่วงแรกเท่านั้น แต่เมื่อเกิดความเคยชิน ก็จะไม่รู้สึกอะไรต่อสิ่งนั้นอีก นี่จึงเป็นสาเหตุให้คนทั่วไปโลภและไม่รู้จักพอ เนื่องจากเข้าใจว่า วิธีการสร้างความสุข คือแบบนั้น พอได้มาแล้วก็ต้องได้ใหม่มาเรื่อยๆ ไม่รู้จักพอ ต้องสร้างใหม่อยู่เรื่อยๆ เพราะเดี๋ยวความสุขก็จะหายไป นำมาซึ่งการคดโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น โจรกรรม ทำให้สังคมเสื่อมโทรมลง

ในความเป็นจริง การสร้างความสุข ไม่ได้มีอะไรยากเย็น แค่ควรพยายามสร้างความสุขทางใจและลดการพึ่งพาความสุขที่อาศัยปัจจัยภายนอก เพราะความสุขทางใจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรารู้สึกดีๆ กับตัวเอง กับประสบการณ์ที่น่าประทับใจแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อกลับมาคิดถึง็จะยังทำให้เรายิ้มได้และอิ่มเอมไปกับเรื่องนั้น เรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลาหากอดทนรอได้ชีวิตก็พลักจากความทุกข์เป็นความสุขแบบฉับพลัน

การสร้างความสุขทางใจ

สร้างความสุขทางใจ ด้วยการเริ่มต้นกับเรื่องใกล้ตัวที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตประจำวัน แล้วพยายามเอาชนะใจตัวเองให้ได้ที่จะไม่โกรธหรืออารมณ์เสีย ยกตัวอย่างง่ายๆ ในเวลาเผชิญกับปัญหารถติดคนเรามักเครียดเพราะกลัวปัจจัยภายนอกจะมากดดันให้ชีวิตแย่ลง จริงๆ แล้วปัจจัยทั้งหลายไม่ได้เป็นตัวขีดเส้นให้ชีวิตแย่ลง ความรู้สึกตัวเองต่างหากที่เป็นตัวกำหนด หากลองคิดว่า ตนเองกำลังนั่งมองดูรถติดบนดาดฟ้าคอนโดสูงๆ เห็นความสวยงามยามค่ำคืน คุณรู้สึกอย่างไร และกลับกัน หากคิดว่าตนเองกำลังนั่งอยู่ในรถที่ไม่เคลื่อนที่มากว่าครึ่งชั่วโมง แล้วมองไปบนยอดตึกสูงๆ คุณรู้สึกอย่างไร

ทุกอย่างมันอยู่ที่การคิดและปรับพฤติกรรมการคิด จากทุกข์ ก็จะกลายเป็นสุข บางคนเอ่ยถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อส่วนรวม หรือต่อตัวเอง มีความรับผิดชอบตรงต่อเวลา แต่ถ้ามันทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นและสภาพจิตใจของคุณดีขึ้น ก็คงจะไปเปลี่ยนความคิดไม่ได้ แต่ถ้าไม่ ก็ลองแหกกฏดูซักครั้ง

ลองนึกเล่นๆ ว่าตัวเองไม่ต้องมีอะไรทำในวันนี้ แล้วไปนั่งดูผู้คนเดินขวักไขว่ในเมือง ต่างก็รีบร้อนจะไปให้ทันนัดหมาย ดูหน้าตาแต่ละคนดู แล้วคิดกลับกันว่าถ้าเราเป็นผู้ที่กำลังรีบร้อนเหล่านั้นบ้าง…

ความสุขทางใจจะมาควบคุ่กับการพัฒนาจิตใจ เราทำได้ในทุกที่ทุกเวลาไม่จำเป็นต้องไปปฏิบัติธรรมในวัดใดให้เสียเวลา แต่ก็ได้ผลบุญโดยตรง แค่หมั่นเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกที่ดี ต่อตัวเองทุกวัน…