จากเรื่องที่ไปเจอมา เค้าเขียนว่า ถ้าแก้ไม่ได้ก็ตัวใครตัวมัน ขยายปมร้อน ที่ลงไว้ในคมชัดลึก บอกว่ามันก็ถูกอยู่เหมือนกันกับการที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ เลิกใส่น้ำลายใส่กัน แล้วร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่มันก็ถูกอย่างที่พรรคดังฝ่ายค้านบอก เขาตำหนิติติงการทำงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

และความเดือดร้อนของรัฐบาลที่เป็นไปราวกับว่า หาเข็มทิศไม่เจอ (ผมอยากจะแทรกนิดนึงว่า สิ่งที่เค้าลงไว้นั้น มันอธิบายได้ว่าผู้บริหารในขณะนี้แก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมไม่ตรงจุด แต่ก็อยากจะถามต่ออีกว่า แล้วจุดที่ว่ามันอยู่ตรงไหน ถ้าใครรู้ออกมาทำหน่อย หรือดีแต่พูดเฉยๆ)

กองทัพกลายเป็นหน่วยงานหลักในการเข้าไปแก้ไขปัญหาในการสกัดน้ำ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ยังไม่เลิกอาการบ้า ร้องขับไล่ ปั่นป่วนการทำงานของทหารที่มุ่งเข้าพื้นที่เพื่อสกัด และอำนวยความสะดวกให้น้ำไหลผ่านในทิศทางที่ควรจะเป็นจนถึงกับมีการออกปากไปยัง นายกฯ และก็ขอร้องไปยังคนชุดแดงให้เปิดทางให้ทหารได้ทำงานเพื่อกู้บ้านกู้เมือง เรื่องอย่างนี้หากเกิดในภาวะปกติ มันก็ไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับภาวะเช่นนี้ มันต้องจัดการให้เฉียบขาด แล้วคนที่จะจัดการก็มีคนเดียวก็คือ นายกฯ ปัญหาก็คือนายกฯ จะจัดวางตำแหน่งการทำงานของตนเองอย่างไร?

ผมว่าดีแต่พูดจริงๆ นั่นแหละ ถ้าจะถามว่าหน่วยงานไหนที่มีศักยภาพที่สุดในการช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤติเช่นนี้ จะเป็นหน่วยงานรัฐ ข้าราชการ??? เด็กก็คิดเป็นครับ จะให้ครู และนายอำเภอไปแบกกระสอบก็คงเป็นไปไม่ได้ หน่วยงานทหารพร้อมทั้งแรงงานและอุปกรณ์ แล้วจะหาหน่วยงานไหนที่พร้อมแบบนี้บ้าง ชาวบ้านต่างก็ช่วยกันตามกำลัง แต่หน่วยงานหลักอย่างทหาร

ซึ่งมีกำลังพลมากมายก็ต้องมาเป็นเสาหลักให้กับประชาชน หรือท่านคิดว่าให้ใครช่วยแบกกระสอบ ให้ใคร หน่วยงานไหน มาช่วยเหลือประชาชน??? เรื่องที่ประชาชนลุกฮือกันเพื่อทำลายกำแพงน้ำอันนี้ต้องเข้าใจ หากใครที่ปากดีไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แต่โม้ ไปวันๆ เพราะตัวเองนอนหมอนนอนฟูกสบาย แต่ชาวบ้านเค้าจมน้ำไม่มีที่นอนมาแรมเดือน อีกฝั่งท่วมจนไม่มีที่จะนอน แต่อีกฝั่งน้ำแห้งขอด การกระจายน้ำให้ทั้งสองฝั่งพออยู่ได้ มันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรง แต่การสกัดน้ำให้ไหลไปยังที่ๆ ไม่เป็นธรรมชาติ แนวกั้นมันก็พังเป็นธรรมดา ถ้ามันเป็นธรรมชาติ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก

ปัญหาคือนายกฯ จะวางตำแหน่งการทำงานอย่างไร อันนี้เป็นอำนาจตัดสินใจของนายกฯ ถ้าตัดสินใจไปแนวทางไหนก็คือแนวทางนั้น จะมาโทษกันทีหลังไม่ได้ เพราะก่อนตัดสินใจก็ไม่เห็นใครที่ไหนมันจะมาช่วยแนะแนวทาง หรือว่าไม่จริง ยิ่งอ่านยิ่งหัวเสีย ดีแต่พูด เท่านั้นเอง ถ้าหัวดีทำไมไม่เสนอแนวทางแก้ไขที่ควรจะเป็น