สรุปตอนนี้ตกงานอย่างเป็นทางการแล้ว ตอนแรกรู้สึกแปลกๆ เหมือนสมองมันโล่งๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก ออกก็ออก เพราะเชื่อมั่นว่าจะมีทางไปแน่นอน พอออกมาจริงๆ ผ่านมาสองวัน ก็ยังรู้สึกเหมือนที่คิดไว้ เพียงแต่…
เราต้องการอะไรจากที่นั่น? ไม่ต้องการเลย ต้องการออกจากนรก รู้อะไรไหม ก่อนวันลาออกประมาณ 10 วัน ก็เกือบตายอยู่หน้าบริษัทแล้ว ก่อนนั้นอีกหลายหนก็เหตุการณ์คล้ายๆ กัน คือการขับรถออกมาจากหน้าบริษัทแล้วไม่มียามมาคอยดูรถให้ ทำให้มองดูรถที่วิ่งสวนกันยากมาก เพราะมีรถบรรทุกมาบังแนวสายตาตลอดเส้นทาง (ใครเคยผ่านไปทางคลองหก-คลองเจ็ดแยกไปวังน้อย หน้าคลังบิ๊กซีคลอง 6 ก็น่าจะเคยเห็นเรื่องโรงงานที่มีรถบรรทุกจอดขอบทางบังสายตาทางออกตลอดแนว
เวลาขับรถออกมาจะมองรถที่สวนมาไม่เห็นต้องค่อยๆ แหย่หัวรถออกไปทีละนิดๆ บางครั้งกะผิดก็อาจจะเสียวๆ นิดหน่อย แถมมีอุบัติเหตุชนกันตายบ่อยครั้งมากในบริเวณดังกล่าว ถามว่าถ้าตัวเองตายไปตรงนั้นจะได้อะไรจากบริษัท คงได้แค่พวงหรีด
พอมีเรื่องที่ทำให้เครียดหลายๆ เรื่องปนกันมากๆ แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนคิดอาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม ก็เลยตัดสินใจลาออกในทันที ไม่ต้องเตรียมตัวแจ้งล่วงหน้ากันเลยทีเดียว ออกแล้วออกเลยไม่คิดกลับ อย่างแรกที่คิดคือ พ้นจากคนที่มีนิสัยแย่ๆ ห่วยแตกๆ มาได้ซักที ต่อไปไม่ต้องไปทนกับความเห็นแก่ตัวของมันอีก
ตอนนี้ก็เริ่มมาเปิดกิจการของตัวเอง ทำ office เองอะไรเองด้วยงบที่มีไม่กี่หมื่น ก็สบายใจกว่าอยู่ office ที่แอร์ก็เสียงดังและไม่เย็น เสียงโหวกเหวกโวยวายไม่มีสมาธิกับการทำงาน ห้องน้ำก็สุดเน่าเท่าที่เคยทำงานมา มีที่นี่เป็นแห่งที่ 2 ที่เน่าพอๆ กัน
หลุดพ้นกับเรื่องการทำงานที่กดดันมากๆ มานั่งทำงานชิลๆ ใต้ต้นไม้ สัมผัสกับสายลมธรรมชาติ กับเสียงกวนของลูกที่ชวนให้เล่น และคอมพิวเตอร์ 1 ชุด กับการเขียนโน่นเขียนนี้เพื่อทำให้เว็บมีรายได้วันละ 10-12$ ต่อวัน แค่นี้ก็ชิลๆ กะว่าทำไปจนกว่าจะมีบ้านหลังใหม่ ไม่น่าจะเกินปีหน้า ค่อยขยายตั้งเป็น ikssn ก่อน ยังไงก็ปูทางเอาไว้แล้วว่าจะมีบริษัทเป็นของตัวเอง