ไม่อยากจะเล่าปัญหาภายในระหว่างญาติพี่น้อง และก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้นะ ลองมองย้อนกลับไปดูชีวิตครอบครัวสมัยที่ตัวเองยังเป็นเด็ก ในระหว่างที่พี่ๆ ก็โตกันหมดแล้ว แต่ละคนอยู่ในช่วงวัยเรียนและวัยทำงาน แล้วก็คิดเปรียบเทียบกันระหว่างครอบครัวตัวเองที่มีเจ้าตัวเล็ก 2 คน คนโตแค่ชั้นประถม ส่วนคนเล็กอยู่ในวัยกำลังเดิน
ทำให้คิดว่าเราเป็นพ่อแม่ ลูกคนแรกที่เกิดมาก็จะมีความรู้สึกรักมากมาย มีอะไรก็ทุ่มเทให้ทั้งหมด พอมีคนที่สองก็อาจจะละเลยความรับผิดชอบต่อคนโตไปบ้าง และให้เหตุผลแค่ว่า เค้าโตพอจะดูแลตัวเองได้บ้างแล้ว แต่พอมานั่งคิดดูถึงความจริง เค้าก็ยังคงเป็นเด็กอยู่ ยังรับผิดชอบอะไรมากไม่ได้ แม้จะพยายามหาข้ออ้างตัวอย่างเด็กคนอื่นที่แตกต่าง สุดท้ายก็คือคนเราไม่เหมือนกันทั้งหมด ชั่วเวลานั้นก็เลยคิดว่า ควรรักลูกเท่ากัน ทำอะไรให้เท่ากัน จะดีกว่า ถึงแม้ว่าเจ้าตัวใหญ่จะโตกว่า แต่เค้าก็ยังขาด ส่วนตัวเล็กอาจดูแลตัวเองยังไม่ได้มาก พ่อแม่ก็ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น ก็พอจะเข้าใจ ที่สองคนรักใคร่กันดีระหว่างพี่น้อง
ย้อนกลับมายังพี่น้องของตัวเอง สมัยยังเป็นเด็ก พ่อและแม่คงจะสอนเรามาดีให้รักพี่น้อง และดูท่าว่ามันจะได้ผลอยู่อย่างนั้นแม้พ่อจะไม่อยู่ จนกระทั่งแม่จาไปอีกคน ความรักในระหว่างพี่ๆ น้องๆ มันถูกสิ่งแวดล้อม ความจำเป็นในการใช้ชีวิต ความโลภ ความหลง ความมัวเมาทั้งหลาย ครอบงำพี่น้องแต่ละคน อีกทั้งแต่ละคนมีคนรอบข้างเพิ่มขึ้น ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวตัวเองเพิ่มขึ้น ไหนเลย ความสนใจเหล่านั้นจะตกมาถึงพี่น้อง ในเมื่อลูกเต้าของตัวเองจำเป็นต้องมีการดูแล
ในเมื่อให้อีกทางหนึ่งมากไป อีกทางหนึ่งก็มักไม่พอ พอขาด ระยะก็เริ่มห่าง กลายเป็นห่างเหิน เมินชา และถอยหนี จุดต่ำสุดจึงอยู่ที่คนรอบข้างของแต่ละคน จะเบนความสนใจให้ไปทางไหน หากคิดได้ว่าไม่ดี ก็อาจหลุดพ้นได้ไม่ยาก แต่โลกนี้ช่างโหดร้าย ไม่มีอะไรสมปรารถนาได้ง่ายๆ พี่น้องแตกคอกันเอง สุดท้ายก็ใช้ทรัพย์ที่มีจนสิ้นเนื้อ เหลือเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งที่เหลือจากบรรพบุรุษ ก็ไม่วายแก่งแย่งชิงดีจนประสานกันไม่ติดอีกต่อไป
ผมเองบอกตรงๆ ไม่ได้คิดอยากจะได้อะไรเลยจากสิ่งที่เหลือไว้ของพ่อแม่ เพราะเท่าที่ได้มานั้นก็ถือว่ามากล้น จนคิดว่าชั่วลูกหลานน่าจะใช้ไม่หมด แต่กลับกัน ความพอดีของคนไม่เท่าเทียม เมื่อภาระเยอะ ความพอดีก็มากกว่าปกติ โดยเฉพาะคนที่ยังมีกิเลสมากล้น ความพอดีก็กลายเป็นความอยากมีอยากได้อยากเด่นอยากดังอยากเหมือนกับคนอื่น เหตุผลเดียวคือ ไม่อยากลำบาก หรืออยากจะให้สังคมยอมรับ หรือเสียหน้าไม่ได้ ยอมหัก ไม่ยอมงอ จนสุดท้ายมันก็เข้าตัว เมื่อมีไม่พอก็ต้องหาเพิ่ม เมื่อหาเพิ่มไม่ได้ก็ต้องเบียดบังสิ่งที่มีอยู่
สุดท้ายผมจึงต้องออกมาปกป้อง ไม่ได้เพื่อหวังเป็นฮีโร่หรืออะไร แต่เพื่อเห็นแก่พี่น้องคนอื่น ถ้ามีกันแค่คนสองคน คงไม่ต้องไปเกรงใจ แต่นี่มีกันเยอะ หากได้ไปไม่ครบไม่เท่าเทียม คนที่แย่ที่สุดคือคนที่ไม่ได้อะไรเลย สุดท้ายเค้าจะอยู่อย่างไร คิดถึงลูกตัวเองในความรู้สึกแรกในวันที่เค้าเกิด คิดถึงว่าเราต้องใช้ความรักแค่ไหนที่จะเลี้ยงเค้าให้โตเป็นคนดี คิดถึงว่าพี่ๆ และแม่เลี้ยงเราให้โตมาเค้าใช้ความรู้สึกอะไร ถ้าไม่ใช่ความรัก
แล้วเราผิดไหมที่จะรักพี่ๆ แล้วจัดการให้มันยุติธรรมที่สุด แล้วสิ่งที่เหลือ ก็แค่ให้อภัย อภัยทาน อยากให้พี่เข้าใจ ว่าสิ่งที่ทำลงไปก็เพื่อทุกคน ไม่ใช่แค่ใครคนนึง และเพื่อให้พ่อแม่ ตาหลับ