ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่า ผมยังคงนับถือศาสนาพุทธ แต่ยังมีข้อสงสัยหลายประการ ที่ไม่อาจหาคำตอบได้ สิ่งที่ได้มาก็แค่บอกเป็นแนวทางให้คิดเพื่อความสบายใจ แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็ไม่สามารถทำให้ปัญหามันกระจ่างได้ทั้งหมด ปัญหาที่ว่าคือ เรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ กรรม และความดีตามลักษณะแนวทางของศาสนาพุทธ
ถามว่าผมศึกษาหรือเปล่า อันนี้ต้องบอกว่ายังไม่ได้ศึกษาอย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง สำหรับใครที่เข้ามาอ่าน อาจปิดไปตั้งแต่ 2 บรรทัดแรก อันนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่ผมมีข้อสงสัยหลายประการ เกี่ยวกับบุญบาป ที่อยากจะเอามาเล่าสู่กันฟังดังนี้ หากใครสามารถตอบข้อสงสัยผมได้ รบกวนตอบด้านล่างเลยก็ดี จะขออนุโมทนาบุญในการทำให้ผมได้รับแสงสว่าง
ปัญหาบาปบุญคุณและโทษ กับหนทางหลุดพ้น เวียนว่ายตายเกิด ฯลฯ มันมีดังนี้ กรณีถ้าเราเกิดมาใช้เวรใช้กรรม
– คำถามคือ เราจะต้องเคยตายมาก่อน แล้วความตาย เราไม่ได้ไปตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ใช้เวรใช้กรรมใช้บุญกันหรือ? ทำไมบุญกรรม ถึงยังไม่หมด และทำไมบุญกรรมของแต่ละคนถึงมีไม่เท่ากัน
+ คำตอบคือ บุญกรรมเท่าที่ผมพิจารณาดู มันคิดเป็น % แน่นอน มันจึงไม่มีการเท่าเทียม และเราตายไป ไม่มีนรก ไม่มีสวรรค์ สำหรับใช้บุญใช้บาป มีแต่ตายแล้วเกิด ส่วนจะเกิดเป็นอะไร มันมี 2 ลักษณะ คือ บุญเยอะเกิดไปใช้บุญก่อน บาปเยอะเกิดไปใช้บาปก่อน
บุญเยอะเกิดเป็นอะไร ก็เทวดา นางฟ้า ตามชั้นเทพต่างๆ นั่นแหละ และมนุษย์ก็ถือว่าเป็นชั้นของเทพ และน่าจะเป็นเทพในระดับสูงสุดที่สามารถมีร่างกายและเลือดเนื้อได้ แต่ต้องเสียพลังพิเศษทั้งหลายไป (ก็ขนาดเทวดายังต้องมากราบไหว้มนุษย์ที่มีศีล แสดงว่า มนุษย์ สูงกว่าเทพ) ส่วนบาปเยอะ ก็น่าจะไปเกิดเป็นสัตว์ อมนุษย์ หรือมารชั้นต่ำๆ ตามลำดับชั้นก็ว่ากันไป
ผมไม่เชื่อว่านรก สวรรค์มีจริง เพราะถ้ามีจริง คนตายแล้วไปชดใช้กรรม ทำไมกรรมยังเหลือ พอมาเกิดเป็นมนุษย์ แล้วทำไมกรรมยังเหลือบุญยังเยอะ แต่ละคนไม่ได้เท่าเทียมกัน ถ้าอ้างว่าเค้าทำบุญมาเยอะเลยได้ดี อ่าว แล้วตอนเค้าตายเค้าไม่ได้ไปสวรรค์เหรอพวกคนบุญเยอะน่ะ ส่วนคนบาปเยอะ เกิดมาลำบากอย่างโน้นอย่างนี้ อ่าว แล้วเค้าตายไปไม่ได้ตกนรกไปชดใช้กรรมให้หมดเหรอ??
อีกอย่าง ตำราที่บอกว่าถ้าเกิดเป็นเทวดา ใช้บุญหมดจะตกนรกเพราะไม่มีบุญแล้ว ก็แสดงว่าบุญมันใช้จนหมดในภพเทวดา พวกนี้ต้องตกนรกเหรอ ถ้าบุญหมด กรรมก็ต้องมีวันใช้กันหมด แล้วมนุษย์ คือภพที่อยู่ในระดับไหน ที่สามารถดึงเอาบุญกรรมมาใช้ได้พร้อมกัน แถมคนบางคนไม่ได้อยากใช้เลย แต่บุญกรรมมันตามมาถึงเอง ก็เลยงงกันใหญ่
อีกกรณีคือ ถ้าเราต้องการจะตัดกรรม ไปสู่หนทางการหลุดพ้น เค้าว่าการอโหสิ การให้อภัย เป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ เป็นการตัดกรรมได้ เช่น ผมผูกบุญกรรมไว้กับใครซักคน เกิดมาชาตินี้ผมต้องล้างแค้นมันฆ่ามันให้ตาย อยู่ดีๆ ผมบอกไม่ล่ะ ผมอโหสิ ผมก็หลุดพ้นกรรมเวรจากเค้า แต่เค้าไม่ได้รับกรรม (คือผมต้องทำให้เค้าชดใช้กรรมที่ก่อกับผมไว้) แต่ผมอโหสิ ผมให้อภัย แล้วเค้าจะได้รับกรรมจากผมยังไง หรือว่ากรรมของเค้าและของผม มันจะถูกลบไปโดยสิ้นเชิง?
กลับกัน ถ้าผมไม่อโหสิ ผมกลับไปล้างแค้นตามฆ่าเค้าให้ตาย กลายเป็นผมทำดันไปผูกกรรมกับเค้าต่อไปอีก ส่วนคนที่ผมฆ่า ก็เจอคำพูดสวยๆ ว่าเป็นเวรกรรมของเค้าจะต้องชดใช้ อ่าว ถ้าอย่างนี้มันต้องยกความดีให้ผมสิ ผมทำให้กรรมเค้าหมด แล้วทำไมผมจะต้องได้บาป หรือว่า กรรมจะหมดก็ต่อเมื่อ คู่กรณีอภัย อโหสิให้ อย่างนี้ถือเป็นหนทางแก้กรรม ที่บอกไว้ก่อนหน้ากระนั้นหรือ?
อันนี้ผมขอสรุปเอาเองว่า ถ้าจะทำให้กรรมหมดจะต้องมีการอโหสิ การให้อภัยกันเกิดขึ้น กรรมระหว่างทั้งสองจะหมดสิ้น คือโดนลบล้างไปโดยสิ้นเชิง (ไม่แน่ใจ) แต่คิดว่าน่าจะ 99% เพราะถ้ามันไม่ลบล้าง แล้วคนที่โดนอโหสิและกรรมเค้ายังอยู่ แล้วใครจะไปแก้ให้เค้าล่ะ จริงไหม
สรุปเรื่องบุญกรรมมีจริงไหม ก็ยังคงเป็นปัญหา รวมไปถึง นรกสวรรค์ มีจริงไหม มีไว้เพื่ออะไร มีไว้ทำไม ถ้ามีไว้เพื่อชำระบาปบุญให้วิญญาณ แสดงว่าการชำระก็คงคิดเป็น % คือทุกๆ วิญญาณจะถูกชำระล้างเท่ากันหมดเป็น % ส่วนจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับที่สร้างกันมา แต่เชื่อแน่ว่า ไม่มีการชำระจนหมด เพราะเมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์ หรือเป็นสัตว์ หรือเป็นอย่างอื่น ก็เท่ากับเราสามารถเอาบุญบาปที่เรามีเหลือ มาใช้ได้อีกใช่ไหมล่ะ
แล้วบาปบุญ มันเหมือนเวรกรรม หรือเปล่า ค่อยมาต่อตอน 2
Pingback: บาปบุญ เวรกรรม เหมือนหรือต่างกัน | Best Knowledge | ศรีอนันต์ ทุกความสุขอยู่กับคุณ