หลายๆ ท่านสอบถามมาว่าเวลาซื้อบัตรเพิ่มทรัพย์ของ ธกส. หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ไว้แล้วจะขายต่อหรือขายคืนยังไง อันนี้ไม่ยากเลย โดยปกติแล้วบัตรเพิ่มทรัพย์ตัวนี้ถือเป็นทรัพย์สิน สามารถขายคืนให้กับ ธกส. เมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะมีรายละเอียดอยู่ในส่วนของการขายคืนว่าเป็นอย่างไร เพราะโดยปกติบัตรประเภทนี้ถือเป็นสลากอย่างหนึ่งที่มีปันผลและดอกเบี้ย ขายคืนได้เมื่อต้องการ ขายเมื่อไหร่ก็ได้ ขายจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ และจะขายที่ไหนก็ได้ ที่ไหนในที่นี้คือ สาขาของธนาคาร ธกส. สาขาไหนก็ได้ โดยการขายคืนนั้นมีเงื่อนไขหลายประการ
เงื่อนไข บัตรเพิ่มทรัพย์
- บัตรเพิ่มทรัพย์ชุดที่ 3 ประกอบด้วย หมวด AK, AL, AM, AN, AO
- บัตรเพิ่มทรัพย์ชุดที่ 4 ประกอบด้วย หมวด AP, AQ, AR, AS, AT
- เริ่มรับฝากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นต้นไป
- กำหนดออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 เมษายน 2553 และออกรางวัลครั้งสุดท้ายวันที่ 16 มีนาคม 2556 รวมออกรางวัล 36 ครั้ง
- อายุบัตรเพิ่มทรัพย์ 3 ปี ครบกำหนดถอนเงินฝาก วันที่ 20 มีนาคม 2556
- จ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด หน่วยละ 1 บาท (ร้อยละ 0.33 ต่อปี)
จากเงื่อนไขดังกล่าวนั้นกำหนดให้ถือครองบัตรไว้ 3 ปีถึงจะสามารถขายได้โดยที่จะได้ดอกเบี้ยหน่วยละ 1 บาท เช่นซื้อบัตรมา 500 บาทจะได้เท่ากับ 5 หน่วย เมื่อถือครบ 3 ปีจะขายคืนได้ในราคา 505 บาท (ดอกเบี้ย 1 บาทต่อหน่วย) จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยน้อยมาก แต่จะมีรายการเพิ่มมาคือการลุ้นถูกรางวัลคล้ายๆ สลากกินแบ่งซึ่งจะออกทุกๆ วันที่ 16 ของทุกเดือน เพราะฉะนั้นจะสามารถลุ้นการถูกรางวัลเพื่อได้เงิน (ดอกเบี้ย) เพิ่มถึง 36 ครั้ง
ทีนี้หากต้องการขายคืนก่อนครบกำหนด ก็สามารถทำได้โดยการขายคืนให้แก่ธนาคารผู้ขาย ทั้งเป็นการขายบางส่วนหรือขายทั้งหมด แนะนำว่าควรขายกับสาขาที่ซื้อมาจะดีกว่า การขายคืนส่วนนี้จะไม่สามารถคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับจำนวนเต็มได้ แต่จะลดหลั่นกันไปตามกฏข้อกำหนดของธนาคารผู้ออกบัตรนั่นเอง ที่สำคัญ เงินต้นจะได้คืนเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ที่เสียประโยชน์คือดอกเบี้ยและการลุ้นรางวัลเท่านั้นในกรณีขายคืนก่อนครบกำหนด
บัตรชนิดนี้ถือเป็นทรัพย์สิน ผู้ถือสามารถที่จะใช้ชำระหนี้หรือใช้เป็นหลักค้ำประกันใดๆ ก็ได้
ที่นี้ก็ทราบแล้วว่า การขายบัตรเพิ่มทรัพย์ของ ธกส. นั้นขายยังไง หรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส. สาขาทุกสาขา หรือที่ Call Center ธ.ก.ส. 0-2555-0555 ในวันและเวลาราชการ