เบื่อๆ เซ็งๆ กับคนใกล้ตัว อยากแรกและอย่างเดียวที่มีปัญหาอยู่ตลอดคือรายได้ และค่าใช้จ่าย มักไม่ตรงกับยอดที่ควรจะเป็น ใครว่าทำบัญชีครัวเรือนแล้วไม่จน ผมก็ยังเห็นคนใกล้ตัวผม ทำมั่งไม่ทำมั่ง พยายามคะยั้นคะยอให้ทำ ทำได้ซักอาทิตย์นึงก็กลับมาแบบเดิมอีกแล้ว อ้างไม่มีเวลา อ้างโน่นอ้างนี่ สรุป ไม่ทำ เพราะทำแล้ววุ่นวาย จะเอาอะไรละเอียดเกิน ปวดหัว เหตุผลบ้าๆ บอๆ ที่บอกให้รู้สึกว่า มันน่ารำคาญกับการทำบัญชีครัวเรือน

ตอนแรกเราตกลงกันว่า เงินเดือนของเราทั้งหมด เอามารวมกันเป็นยอดเดียว แล้วหักรายจ่ายที่จำเป็นออกไป เหลือเท่าไหร่ 30 % เป็นเงินเก็บ ซึ่งเงินเก็บนี้ก็แบ่งเป็น 20% เป็นเงินออม 10% เป็นเงินเผื่อฉุกเฉิน ที่เหลือไว้ใช้จ่าย เหลือเท่าไหร่สิ้นเดือนหักไว้เป็นเงินออม หากติดลบก็ต้องลดรายจ่ายอย่างอื่นออก จนเป็นระบบ

ค่าใช้จ่ายสองสามปีก่อน หนักไปทางค่าหนี้บัตรเครดิต และค่าผ่อนรถ โชคดีปี 2554 สิ้นปีมีรายได้มาก เลยปิดยอดบัครเครดิตไป 80% ส่วนที่เหลือก็เอาไว้เผื่อจำเป็น แต่ก็ไม่พยายามจะรูดมาก เรามีบทเรียนกันมา ค่าผ่อนรถก็เอาเงินก้อนจ่ายปิดหมด เป็นไทแก่ตัวเอง ก็ว่าน่าจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น เพราะรายจ่ายหลายอย่าง ไม่ว่าจะของตัวเอง ของคนใกล้ชิด หดหายไปมาก เฉพาะของผมเอง เหลือแค่บัตรเครดิต 1 ใบ กับค่าน้ำมันรถ และกินใช้ปกติ ส่วนของเค้า ยังคงเหลือค่าบัตรเครดิตซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่า กี่ใบ พร้อมกับค่าแชร์ อีกหลายมือ กับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จิปาถะ ยุบยับเต็มไปหมด

สรุปรายได้ของเธอก็คือรายได้ของเธอ รายได้ของผมก็คือรายได้ของเธอ ส่วนรายจ่ายของผม ครึ่งหนึ่งเป็นรายจ่ายของเธอ ส่วนรายจ่ายของเธอทั้งหมดเป็นของผม งงมั้ย ผมประสาทจะกิน ผมคิดว่าล้างรายจ่ายให้เธอไปเกือบหมดแล้ว เหลือแต่พอที่ตัวเธอจะไหวและมีเงินเก็บบ้าง ทดลองงาน 3 เดือน ทั้งยังยอมยกบัญชีเงินเดือนและรายได้อื่นๆ ให้ดูแล แต่ดูเหมือนว่า 2 เดือนแรกก็ไม่ไหวซะแล้ว

ยอดการกดเงินมาจ่าย เงินเข้า 15 วันครั้ง มียอดกดออกเกือบทุกวัน คงเหลือไว้ติดบัญชีหลักร้อยทุกครั้งก่อนวันเงินออก 1 วัน (เพื่ออะไร นี่ถ้าสามารถกดออกมาหมดได้คงเกลี้ยงแล้วมั้ง) เธอบอกผมใช้เงินเยอะ เติมน้ำมัน ซื้อนั่นนี่ ก็ใช่ เพราะผมให้ทุกอย่างไป เวลาผมจะต้องใช้ผมก็ขอ มันผิดตรงไหนเพราะผมไม่มี มันอยู่ที่เธอหมดนี่หว่า แต่เวลาที่เธอจะใช้อะไรผมเคยถามซักคำมั้ย พอมาดูสรุปแต่ละเดือนก็ต้องหงุดหงิดเพราะผมไม่ชอบตัวเลขที่มันดูเหมือนคนยากจน คนใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ที่มีเงินเหลือติดบัญชีก่อนเงินเดือนออกแค่หลักร้อย เผลอๆ ไม่ถึงด้วยซ้ำ (ไม่ได้ดูถูกใคร แต่ไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของตัวเองและคนรู้จักที่ทำแบบนั้น)

พอถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงกดถี่จัง กดบ่อยจัง ก็เป็นอันต้องทะเลาะ เพราะถูกหาว่าซีเรียสเกินไปไหม เพราะเธอกดออกมาไม่ได้ใช้อะไรเลย มันของผมทั้งนั้น เออ แปลก จำได้ว่าของที่อยากได้แต่ละเดือนก็มีหนัง DVD เรื่องถึงสองเรื่อง บ้างหนักๆ ก็อาจสามเรื่อง ไม่น่าจะทำให้ยอดเงินที่มีมากกว่ารายได้ส่วนนี้ตั้งหลายเปอร์เซ็นต์หายไปจากบัญชีเกินกำหนด เติมน้ำมันเดือนนึง 2 พันบาท บางเดือน 3 พันบาท นอกนั้นก็ค่าใช้จ่ายในบ้าน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารายจ่ายในบ้านที่เธอซื้อเข้าทุกเดือน มันเป็นรายจ่ายเท่าไหร่และเอาเงินที่ไหนจ่าย แต่เธอบอกว่าไม่ได้ใช้อะไรเลย แล้วเงินมันหายไปไหนฟะ???

สรุปว่า เงินมันละลายหายไปกับธนาคารหรือยังไง (ฟะ) เบื่อแล้ว เดือนนี้เลยขอริบทุกอย่างมาไว้จัดการเองเหมือนเดิม เผื่อว่าจะรู้ถึงสาเหตุว่า เงินมันหายไปไหนกันแน่

แต่เราก็หวังว่า ซักวัน จะเก็บเงินสร้างบ้านด้วยเงินสดในมือเช่นกัน