เป็นบทความที่เขียนไว้อย่างน่าขบคิดและให้พิจารณาเป็นที่สุด แต่ไม่ชอบอยู่อย่างคือ ไม่รู้คนต้นคิดหรือคนที่นำมาโพสเป็นใคร ไม่ขอเอ่ยนามละกัน เพราะดูเหมือนในแฟนเพจของเค้าจะมีพระปลอมๆ อยู่ด้วยจึงทำให้รู้สึกขัดกันนิดหน่อย กับเนื้อหาที่ดีมากๆ สำหรับโพสนี้

เบื้องต้นอ่านบทความนั้นแล้ว 2 หนก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมคือ ความรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ ศาสนาพุทธ กำลังเสื่อมถอยลงไปมาก ทำให้ขบคิดไปอีกว่า ขนาดดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดพุทธศาสนาจริงๆ กลับมีพุทธเพียงแค่ 1% ผิดกับประเทศไทยเรานี้ที่มีกว่า 70% แต่ 70% เหล่านี้มีเนื้อแท้ของพุทธศาสนาจริงๆ แค่ไหนกัน แล้วพาลให้คิดไปอีกว่า ศาสนาพุทธจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน หากผู้ที่ทำหน้าที่เผยแพร่หลงผิดแล้วพาลทำให้ผู้ไร้ปัญญาเห็นผิดไปด้วย

ยังติดตาฝังใจกับข้อความในเรื่องของมุมมองคนอินเดียมองพระไทยอย่างไรได้ดี เขาว่าพระจากเมืองไทยเสื่อมถอยมาก มันจึงสามารถมองภาพรวมของศาสนาพุทธในประเทศไทยได้ไม่ยาก พระพุทธเจ้าได้ละจากความเป็นพระราชา มาสู่ความเป็นยาจก แต่สาวกแห่งพุทธศาสนา ละจากความเป็นยาจก อยากมาเป็นพระราชา พระต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจาก จีน ฑิเบต ญี่ปุ่ญ พม่า ลาว เขมร ศรีลังกา เนปาล ประเทศไทย บังคลาประเทศ แม้แต่ในอินเดียเอง ล้วนทำตัวสูงส่งเป็นเทวดา บ้าคลั่งการบูชา

หากมาหน้าหนาวพระทั้งหลายเหล่านี้จะปกคลุมร่างกายด้วยเครื่องห่มหุ้มกายแบบมหาเศรษฐี เป็นพระพวกผู้ดี ทั้งหมวกไหมพรม ถุงมือ ถุงเท้าซ่อนเสื้อกันหนาวภายในและห่มชั้นนอก ผ้าพันคอขนสัตว์ กินอยู่อย่างอลังการ อาหารเลิศหรู เอาแต่ใจยกตัวเองเป็นเทวดา ก่อนเป็นยาจกพอบวชแล้วเป็นเทพเจ้า เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ แตะไม่ได้ ว่าไม่ได้ เป็นของสูงที่ควรเทิดทูลบูชา ไม่ว่าจะเป็นอ้ายอีที่ไหน ก็เป็นเหมือนกันหมด

อินเดียมองพระไทย มุมมองน่าสนใจ

ไม่เหมือนนักบวชในประเทศเขา ในอินเดีย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่พุทธ พวกเขานั้นอยู่อย่างพอมีพอกิน นักบวชที่นี่ บ้างก็เปลือยกายไม่เอาอะไร ท้าทายความหนาวก็มี อยู่อย่างละสิ่งสะสม พอยังอัตภาพ มาบวชแล้วสละ อยู่แค่ยังอัตภาพเพื่อหาโมกธรรม แม้ดูสกปรกรุงรัง แต่นักบวชของเขามันน่าเลื่อมใสต่อจิตใจผู้คน ที่แตกต่างจากพระอย่างที่เห็นทั่วไป ที่มีความเป็นอยู่อย่างมหาเศรษฐี

หันไปมองบรรพบุรุษของเขา ที่ออกบวชเพื่อละ แต่สาวกบวชเพื่อสะสมให้อิ่มหมีพีมัน ต่างก็กอบโกยสะสมด้วยความโลภโมโทสันด้วยกันแทบทุกคน

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้พุทธศาสนาในดินแดนเขาจึงมีไม่ถึง 1% จากคนเป็นพันล้าน แล้วมองบ้านเรา ประชาชนของเรายังไร้ปัญญาที่จะแยกแยะ แต่คาดการณ์ว่าอีกไม่นาน พุทธมันจะเสื่อมถอยไปเองเพราะเห็นชัดเจนถึงความเป็นศาสนาแห่งการกอบโกย ขัดแย้งกับคำชี้สอนชาวบ้านว่าให้สละ ให้ละ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น บทสวดที่ท่องทุกครั้งทุกยาม แต่ทำไม่ได้อย่างที่พูด มันน่าอายไหมที่พระพุทธเจ้าครองผ้าชุดเดียว แต่สาวกมันพอกซะหลายชุด

ฟังแล้วรู้สึกยังไงครับกับมุมมองคนอินเดียมองพระไทย นี่เป็นแค่มุมมองเพียงนิดหน่อยที่เอามายกตัวอย่างกันให้ได้อ่านได้ฟัง ตัวผมเองคิดว่า เป็นจริงดั่งนั้นและคิดมาตลอด บ่อยครั้งที่เคยมีปากเสียงกับคนในบ้านว่าแนวคิดแบบนี้มันต่างกัน ว่าทำแล้วสบายใจก็ไม่ติดใจ ได้บุญ แต่สำหรับผมบุญอาจจะได้ แต่บาปก็อาจจะได้มาด้วย เพราะเท่ากับการสนับสนุนความผิดบาปไปด้วย

พูดไปก็เรื่องยาว เอาเป็นว่าอินเดียมองพระไทย เหมือนที่ผมมองพระไทย แต่หากเห็นพระท่านไหนน่าเลื่อมใส มันมีวิธีดูวิธีสังเกตุอยู่ เห็นแล้วรู้เลย น่าเคารพน่าเลื่อมใส ยินดีและอนุโมทนาให้ท่านหลุดพ้นด้วย

ภาพ:เครดิตในลายน้ำ